น้ำท่วมนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย รุนแรงสุดในรอบ 100 ปี
น้ำท่วมใหญ่ที่ถล่มชายฝั่งตะวันออกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนพฤษภาคม 2025 ได้สร้างความเสียหายครั้งประวัติศาสตร์ โดยมีผู้เสียชีวิต 5 คนและทำให้ประชาชนกว่า 50,000 คนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก (ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2025)
ริมแม่น้ำแมนนิ่ง (Manning River) ที่เมืองทารี (Taree) ได้ทำลายสถิติเกือบ 100 ปี เมื่อระดับน้ำสูงผ่าน 6 เมตร (20 ฟุต) เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น 1 ใน 500 ปี และเป็นภัยพิบัติน้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาค Mid North Coast
สาเหตุและความเสียหาย
น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากระบบความกดอากาศต่ำที่เคลื่อนตัวช้า ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ Mid North Coast และบางส่วนของหุบเขาฮันเตอร์ รวมถึงเมืองต่างๆ เช่น ทารี, เคมพ์ซีย์, พอร์ตแมควอรี และคอฟส์ฮาร์เบอร์
พื้นที่บางแห่งได้รับฝนตกหนักมากกว่า 500 มิลลิเมตรในเพียง 3 วัน และมากกว่า 300 มิลลิเมตรภายใน 24 ชั่วโมง โดยเมืองทารีได้รับฝน 427 มิลลิเมตรในเพียง 2 วัน ทำให้มีฝนตกสูงสุดในประวัติศาสตร์ของเดือนพฤษภาคม
ผลกระทบต่อชุมชน
บ้านเรือนและธุรกิจกว่า 5,000 แห่งตั้งแต่วูลกูลกาถึงฟอร์สเตอร์ประสบปัญหาไฟฟ้าดับ นอกจากนี้โรงเรียนมากกว่า 100 แห่งต้องปิด ทีมกู้ภัยต้องเข้าช่วยเหลือผู้คนหลายสิบคนจากหลังคาบ้าน
นายกรัฐมนตรีนิวเซาท์เวลส์ คริส มินส์ กล่าวว่า ภูมิภาคนี้เผชิญกับ "ระดับการเพิ่มขึ้นของลำธารท้องถิ่น, ห้วย, แม่น้ำ" ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1920
การตอบสนองของรัฐบาล
รัฐบาลออสเตรเลียได้เปิดใช้กองทุนช่วยเหลือภัยพิบัติทั้งในระดับรัฐและระดับชาติ นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบานีส ได้แสดงข้อความสนับสนุนผู้ประสบภัยและแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต
การศึกษาเชิงวิทยาศาสตร์ระบุว่า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มนุษย์เป็นสาเหตุ โดยน้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดที่ภูมิภาคนี้เคยประสบมา
