ปารีสเปิดถนน 500 สายให้ปลอดรถยนต์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง

ชาวปารีสได้ลงคะแนนเสียงเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2025 ผ่านการลงประชามติสนับสนุนแผนการเปิดถนนอีก 500 สายให้เป็นเขตปลอดรถยนต์ โดยมีผู้ลงคะแนนเสียง 65.96% เห็นด้วยกับมาตรการนี้ ขณะที่ 34.04% คัดค้าน แม้ว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิเพียง 4.06% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเท่านั้น แต่ผลลัพธ์นี้ก็เป็นการขับเคลื่อนนโยบายเมืองสีเขียวของนายกเทศมนตรี Anne Hidalgo ต่อไป

แผนการนี้จะขจัดที่จอดรถอีก 10% ของปารีสในปัจจุบัน และขยายผลจากการดำเนินการสีเขียวของนายกเทศมนตรี Anne Hidalgo ที่ได้ปลูกต้นไม้และกำจัดรถยนต์ออกจากถนน 300 สายแล้วตั้งแต่ปี 2020 การลงประชามติครั้งนี้จะกำจัดที่จอดรถเพิ่มอีก 10,000 คัน เพิ่มจากที่ได้กำจัดไปแล้ว 10,000 คันตั้งแต่ปี 2020

การดำเนินการนี้เป็นการลงประชามติครั้งที่สามในปารีสภายในสามปี หลังจากการลงคะแนนในปี 2023 ที่อนุมัติการห้ามสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และการตัดสินใจในปีที่แล้วที่จะเพิ่มค่าจอดรถสำหรับรถ SUV ขนาดใหญ่เป็นสามเท่า

ถนนปลอดรถยนต์เพิ่มอีก 500 สายจะทำให้พื้นที่เหล่านี้ที่เรียกว่า "ปอดเขียว" รวมทั้งหมดเกือบ 700 สาย ซึ่งเป็นมากกว่าหนึ่งในสิบของถนนทั้งหมดในเมืองหลวง แผนการนี้จะดำเนินการในทุก 20 อาร์รองดิสม็องต์ของปารีส โดยปิดถนน 6-8 สายต่อเขต และคาดว่าจะขจัดที่จอดรถประมาณ 10,000 คัน

แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงล่าสุด แต่ปารีสยังคงล้าหลังเมืองหลวงยุโรปอื่นๆ ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว ซึ่งรวมถึงสวนส่วนตัว สวนสาธารณะ ถนนที่มีต้นไม้ แหล่งน้ำ และพื้นที่ชุ่มน้ำ โดยครอบคลุมเพียง 26% ของพื้นที่เมือง เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของเมืองหลวงยุโรปที่ 41%

นี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของ Hidalgo ที่จะเปลี่ยนปารีสให้เป็นเมืองใหญ่ปลอดรถยนต์แห่งแรกของโลก ตั้งแต่ที่นายกเทศมนตรีจากพรรคสังคมนิยมเข้ารับตำแหน่งในปี 2014 ข้อมูลของสำนักงานเทศบาลปารีสแสดงให้เห็นว่าการจราจรในเมืองลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งตั้งแต่พรรคสังคมนิยมเข้ามาอำนาจ

ในระหว่างการดำรงตำแหน่งของเธอ Hidalgo ได้เปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของการจราจรภายในปารีสอย่างรุนแรงเพื่อลดมลพิษทางอากาศและเสริมความแข็งแกร่งให้เมืองในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการสร้างเส้นทางจักรยานใหม่มากกว่า 340 ไมล์ และขจัดที่จอดรถกลางแจ้งหลายหมื่นคัน ส่งผลให้การจราจรลดลงมากกว่า 40% ตั้งแต่ปี 2011

แม้ว่านโยบายของ Hidalgo จะได้รับคำชมจากต่างประเทศ แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงในประเทศ โดยนักวิจารณ์กล่าวหาว่าเธอทำให้ความเหลื่อมล้ำระหว่างชาวปารีสที่อยู่ภายในเมืองและชานเมืองลึกซึ้งยิ่งขึ้น แผนการใหม่นี้จะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 3-4 ปี โดยคาดว่าจะลงทุนประมาณ 500,000 ยูโรต่อถนนหนึ่งสาย

ที่มา: Bloomberg CityLab