การแก้ปัญหาหนังสือเหลือใช้ในสิงคโปร์

สิงคโปร์กำลังเผชิญกับปัญหาหนังสือที่ไม่ต้องการและเกินใช้ซึ่งกลายเป็นขยะ แต่แทนที่จะปล่อยให้หนังสือเหล่านี้ลงท้ายที่ถังขยะ ประเทศนี้ได้พัฒนาระบบการรีไซเคิลและบริจาคหนังสือที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ

ช่องทางการบริจาคหนังสือหลากหลาย

สิงคโปร์มีหลายองค์กรที่รับบริจาคหนังสือ เช่น Books Beyond Borders ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อขายหนังสือมือสองและนำเงินไปสนับสนุนโครงการการศึกษาในพื้นที่ชนบท และ Share-Your-Book @ South West ซึ่งเป็นโครงการของ South West Community Development Council ที่ให้ผู้บริจาคได้รับคะแนนรีไซเคิล 5 เซ็นต์ต่อเล่ม

FairPrice Share-A-Textbook เป็นโครงการประจำปีที่เก็บรวบรวมหนังสือเรียนเพื่อแจกจ่ายฟรีให้นักเรียนจากครอบครัวขาดแคลน โดยดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1983 และช่วยเหลือนักเรียนกว่า 280,000 คนผ่านการเก็บรวบรวมหนังสือเรียนกว่า 6.8 ล้านเล่ม

การสนับสนุนแรงงานต่างชาติ

โครงการ One Bag, One Book ก่อตั้งโดยแรงงานต่างชาติและกวีผู้ได้รับรางวัล Zakir Hossain Khokan ในปี 2015 มีเป้าหมายเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมการอ่านในหมู่แรงงานต่างชาติ โดยมองหาหนังสือในภาษาเบงกาลี ฮินดี และภาษาเอเชียใต้อื่นๆ Migrant Library Singapore ยังให้บริการห้องสมุดเคลื่อนที่ส่งหนังสือไปยังหอพักแรงงานและจัดกิจกรรมอ่านบทกวีและอภิปรายหนังสือ

Book Exchange Corner และระบบแลกเปลี่ยน

หอสมุดแห่งชาติสิงคโปร์ (NLB) ได้จัดตั้ง Book Exchange Corner ในสาขาต่างๆ เช่น Ang Mo Kio, Bedok, Bishan, Central และอื่นๆ โดยผู้คนสามารถนำหนังสือที่ไม่ต้องการมาวางและหยิบหนังสือเล่มอื่นไปอ่านได้

การรีไซเคิล

Thryft เป็นร้านหนังสือมือสองออนไลน์ยั่งยืนที่ก่อตั้งโดยนักศึกษา NUS รับบริจาคและแลกเปลี่ยนหนังสือ พร้อมนำส่วนหนึ่งของรายได้คืนสู่สังคม แอป Carousell และ Sharetings ก็เป็นช่องทางการแลกเปลี่ยนและบริจาคหนังสือในรูปแบบดิจิทัล

หนังสือสามารถรีไซเคิลได้เหมือนผลิตภัณฑ์กระดาษชนิดอื่น โดยหนังสือการ์ตูนขาวดำสามารถรีไซเคิลได้เช่นเดียวกับหนังสือทั่วไป สำหรับหนังสือที่ไม่อยู่ในสภาพดีพอที่จะบริจาค ระบบรีไซเคิลกระดาษยังคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการทิ้งลงถังขยะทั่วไป

ระบบการจัดการหนังสือเกินใช้ในสิงคโปร์แสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันของภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับสื่อการเรียนรู้ การดำเนินการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดปัญหาขยะเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดโอกาสการเรียนรู้ให้กับกลุ่มคนหลากหลาย ตั้งแต่เด็กนักเรียนขาดแคลนไปจนถึงแรงงานต่างชาติ ทำให้หนังสือที่เคยถูกมองว่าไร้ค่ากลับกลายเป็นสะพานเชื่อมโยงทางสังคมและการศึกษา

ที่มา: CNA